กรี๊ดดดดดดดดด ประสบการณ์เข้า จิมจิลบัง (찜질방) ครั้งแรก ผมนี่ทำตัวไม่ถูกเลยครับทุกคน ??? แยกหญิงชายอะเข้าใจ แต่เข้าไปพร้อมกับผู้หญิงด้วยกันก็อายอยู่ดี แม่คุณเอ้ยยยย
ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่าว่าข้างในมีอะไรบ้าง
ด้านหน้ามีพื้นที่ให้นั่งรอ สำหรับคนที่ไม่ได้เข้าไปใช้บริการ ดูทีวีเพลินๆ พร้อมตู้กดเครื่องดื่ม
ติดต่อเรียบร้อยแล้วก็เข้าไปได้เลยจ้า ก่อนเข้าเราจะได้รับสายรัดข้อมือมา มีกุญแจสำหรับใช้ไขตู้เก็บของส่วนตัวด้วย
มีตู้สำหรับฝากรองเท้าพร้อมกุญแจล็อกติดกับสายรัดข้อมือ หลังจากตรงนี้ไป เดินเท้าเปล่าได้เลย ข้างในสะอาดมาก
1 คน ต่อ 1 ตู้ ส่วนตัวสุด ๆ ขออภัยในความมือสั่น เพราะกำลังทำใจ ไม่อยากแก้ผ้า T__T
และแล้วเราก็มาถึงหน้าโรงอาบน้ำ ด้านหน้านี้จะมีตู้เก็บเสื้อผ้าและของอื่นๆให้อีก ใช้หมายเลขเดียวกันกับตู้รองเท้าเลย และแน่นอน.. ตรงนี้แหละที่ทุกคนจะต้องถอดเสื้อผ้าและเดินเข้าไปในโรงอาบน้ำกันแบบตัวเปล่า
เก็บของไว้แล้ววิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว
นึกภาพอารมณ์ประมาณนี้เลย ข้างในถ่ายรูปมาไม่ได้ อันนี้ขอยืมรูปจาก Sparex เองบน NAVER
จะเห็นว่ามีทั้งโซนอาบน้ำ และบ่อแช่ที่มีอุณหภูมิแตกต่างกัน
นอกจากนั้นยังมี เขียง เอ้ยยยย เตียงสำหรับนอนเพื่อให้อาจุมม่าขัดขี้ไคล (เรียกสวยๆว่า Scrub) โดยคนที่บริการให้เราจะเป็นอาจุมม่าหน้าตาใจดี แต่แรงดีมาก แสบตัวเบาๆ ตอนทำก็นอนมองนูน่าเตียงข้างๆ คือหน้าเค้าฟินมาก ไม่เขินไม่อะไรเลย ซักพักอาจุมม่าตีขา บอกให้แหกขาด้วย ตายแล้วววววว จิตใจทำด้วยอะไรกัน /// ท้ายที่สุด คุณชาลินีบอกว่าให้คิดซะว่า มาล้างรถยนต์ 55555555 ขัดกันมันเลยว้อยยยยย
นี่แหละ เจ้าอุปกรณ์ขัดตัวแสบ ในตัวอย่างมีผ้าขนหนูปิด ของจริงบอกเลย ไม่มี๊ ไม่มี T___T นอนเปล่าเปลือย หนาวสุดอะไรสุด แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะอาจุมม่าที่ขัดให้ก็แก้ผ้าเหมือนกันจย้าาาาา เจ๊ากันเนาะ
ว่าแล้วก็ขอตัดภาพมาที่ตอนเสร็จแล้วนะครับ ความรู้สึกเหมือนเกิดใหม่เลย เพราะเข้าไปอาบน้ำ แช่น้ำอุ่น ซาวน่า แถมลองบริการขัดขี้ไคลไป 30 นาที โอ้โหหหห น้ำหนักลดไป 1 กิโล (นี่พูดจริง)
มีไดร์เป่าผมให้บริการนะจ๊ะ แต่เสีย 200 วอน / 3 นาที ใช้กันดีๆล่ะ มีนับถอยหลังด้วย
เวลายังเหลือ ส่งต่อให้คุณชาลินีเลยครับ รออะไร 5555
ยังไงก็ยังทำใจให้ชินไม่ได้อยู่ดี นี่ต้องรอจังหวะที่ไม่มีคนถึงจะถ่ายรูปออกมาให้ดูได้ ลองจินตนาการภาพว่าตรงหน้ากระจกนั้นมีสาวๆยืนตัวเปล่า ทาครีมบำรุงผิว บางคนยืนเช็ดตัวแบบทุกซอกทุกมุมกันกลางทางเลย ตายแล้ววววว เขินหนักมาก
เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้ว ก็ได้เวลาไปพักผ่อนของจริง ลงไปจิมจิลบังกันเล้ยยย
ยังคงเดินด้วยเท้าเปล่า อย่างที่บอกว่ามันสะอาดมาก ไม่ต้องกังวลอะไรเลย นอนกลิ้งลงไปก็ได้ 555555
แท่นแท๊นนนนนนนนน นี่แหละสวรรค์ของจริง พร้อมลุยรึยังทุกคนนนน ที่เห็นในรูปว่ามีคนนอนเล่นอยู่นั้น เค้าไม่ได้นอนเล่นนะ เค้านอนจริงๆ 555555 บางคนหลับยาวเลยก็มี
ที่นี่เปิด 24 ชั่วโมงก็จริง แต่เด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ต้องกลับก่อน 2ทุ่มครึ่ง เหตุผลน่ะหรอ… คุณชาลินีบอกว่า บางทีคนที่นี่ยิ่งดึกยิ่งคึก เด็กๆไม่ควรอยู่นะจ๊ะ ??
บริเวณตรงนี้เป็นลานกิจกรรม บางทีก็มีคนมาร้องเพลง มาเต้น หรือประกวดอะไรเล็กๆ ขำๆ ถ้าไม่มีก็จะเปิดทีวีไว้ นอนดูชิลๆไป สโลว์ไลฟ์สุด
เสื่อผืน หมอนใบ นอนได้ทุกซอก ทุกมุม
มีแต่งเป็นบ้านเกาหลีแบบโบราณให้ด้วย แถมมีห้องให้เข้าไปนอนได้ เสมือนเป็นบ้านจริงๆ และที่นี่แหละครับที่ผมนอนยาวไป 2 ชม. 5555555555 ชิลจริง
พร้อมซึมซับความเกาหลีแท้ ๆ (แบบจำลอง) แล้วรึยัง
บริเวณกว้างขวาง เดินไปหลังบ้านก็ได้
หลังบ้านก็จะมีเก้าอี้ให้นั่งรับแดดชิลๆ ดูวิวตึกข้างๆ
ถ้วยไหจานชามครบครัน แต่ใช้งานไม่ได้นะ ตั้งโชว์เพิ่มอารมณ์เฉยๆ 5555555
กลับออกไปที่ลานกลาง ด้านหลังนั้นมีห้องสำหรับเด็กน้อยไว้ให้วิ่งเล่น กระโดดไปมา
มีศาลากลางบ้านให้นอนอีกแล้ว บนนี้มีปลั๊กไฟด้วย เสียบชาร์จแล้วนอนไถมือถือรัวๆ
หรือใครอยากนวด มีเก้าอี้หยอดเหรียญให้บริการด้วยนะครับ ถ้าเป็นที่ไทยเรา คงมีพี่ ๆ หมอนวดมาแทน
นี่เป็นอีกสิ่งที่ดีงามและชอบมากคือห้องจำลองสภาพอากาศแต่ละสถานที่
เช่น ห้อง Jeju Exclusive Hot Bath เปิดเข้าไปนี่ ร้อนเบาๆ
หรือจะเป็นอีกห้อง เปิดเข้าไปนี่นึกว่าอยู่ขั้วโลก ปรับตัวไม่ทันเลย
อีกโซนสำคัญคือร้านอาหารครับผม ขนม เครื่องดื่ม ไอติมพร้อม
รายการอาหาร ถ้าอ่านไม่ออก ไม่รู้จัก ไม่เคยกินนี่นึกภาพไม่ออกเลยนะว่าสั่งไปแล้วจะได้อะไรมากิน เกาหลีที่แท้ทรู
มาละครับบบบ ขอบคุณผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ คุณชาลินี จบแล้ววันนี้
สถานที่: Sparex 스파렉스
ดูแผนที่ได้ที่นี่
