Street Woman Fighter รายการที่ปลุกกระแสเหล่าแดนเซอร์สาวในเกาหลีให้ลุกเป็นไฟ จนกลายเป็น Dance Fever ไปทั่วโลก
ถ้าฟังชื่อรายการแบบผ่าน ๆ อาจจะยังเดาไม่ออกว่าเป็นรายการเกี่ยวกับอะไร แต่เชื่อว่าถ้าพูดถึงท่าเต้น “Hey Mama” หรือเพลง “Cold Blooded” ของ Jessi รับรองว่าทุกคนต้องร้องอ๋อ หรือถ้าได้เห็นหน้าเห็นตาผู้เข้าร่วมรายการก็อาจจะมีคุ้นกันบ้างตาม TikTok เพราะรายการนี้คือรายการที่เกี่ยวกับ “การเต้น” นั่นเอง
Street Woman Fighter คือรายการแข่งขันเต้นของทีมนักเต้นสาวที่รวมตัวกันเพื่อมาแข่งขันหาทีมผู้ชนะผ่านภารกิจต่าง ๆ ใน Concept Survival Show ซึ่งออกอากาศผ่าน MNET โดยมีทีมที่เข้าแข่งขันทั้งหมด 8 ทีมด้วยกัน ผู้ชนะจะต้องฝ่าฟันภารกิจต่าง ๆ ทั้งหมด 8 ภารกิจ เพื่อที่จะได้รับเงินรางวัลและถ้วยรางวัลนั่นเอง
แน่นอนว่า ในช่วงก่อนออนแอร์ ทาง MNET ได้มีการปล่อย Teaser เป็น Stage ที่อยู่ในภารกิจ 3 มาให้เราดูกันล่วงหน้า และจะมีการนับยอดวิวกับยอดไลค์ผ่านทาง YouTube เพื่อใช้เป็นคะแนนในการตัดสินหาผู้ชนะด้วย เชื่อว่าใครหลายคนอาจจะได้เห็นคลิปเหล่านั้นผ่านตากันมาบ้าง และอาจจะเผลอกดไลค์เป็นกำลังใจไปให้แล้วโดยไม่รู้ตัวว่ามีส่วนในการตัดสินชะตาของทีมเต้น
และในช่วงที่มีการปล่อยคลิปออกมา กระแสของนักเต้นในแต่ละทีมก็เริ่มมีการพูดถึงมากขึ้น บางคนเริ่มมียอดผู้ติดตามใน SNS เพิ่มขึ้นตั้งแต่รายการยังไม่ออนแอร์เลยก็ว่าได้ วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักผู้เข้าแข่งขันทั้ง 8 ทีมกัน
ทีมเต้นผู้เข้าแข่งขันในรายการ Street Woman Fighter
ได้เวลาเผยโฉมหน้าทีมเต้นทั้ง 8 กันแล้ว ถ้าใครได้ดูรายการจะคุ้นก็ห้องที่มีสีสันเหล่านี้ เพราะเป็นห้องประจำของแต่ละทีมที่จะเอาไว้ใช้นั่งพักหรือปรึกษากันเวลามีภารกิจใหม่ ๆ เข้ามาให้ทำ ว่าแล้วก็ไปดูรายชื่อทีมเต้นกันเลยดีกว่า
- YGX (นำโดย ลีจอง)
- LACHICA (นำโดย กาบี)
- WANT (นำโดย ฮโยจิน ชเว)
- WayB (นำโดย โนเจ)
- CocaNButter (นำโดย ริเฮ)
- PROWDMON (นำโดย โมนิกา)
- HolyBang (นำโดย ฮันนี่เจ)
- HOOK (นำโดย ไอกิ)
ซึ่งทั้ง 8 ทีมนี้ต่างมีผลงานการันตีมากมาย บางทีมก็เป็นผู้ออกแบบท่าเต้นให้กับศิลปิน K-Pop ชั้นนำมากมาย บางทีมก็เป็นอาจารย์สอนเต้นในมหาวิทยาลัย มีโรงเรียนสอนเต้นเป็นของตัวเอง บางทีมโด่งดังจากการเต้นใน TikTok แต่ทุกทีมล้วนมีสิ่งเดียวกัน คือ ใจที่รักในการเต้น
ภารกิจสุดโหดทั้ง 8 Mission ในรายการ Street Woman Fighter
ในรายการนี้ นอกเหนือจากทีมเต้นที่เป็นผู้เข้าร่วมรายการแล้ว จะขาดพิธีกรที่เป็นผู้ดำเนินรายการไปไม่ได้ โดยพิธีกรของรายการก็มีความสมมงในฐานะของนักเต้นด้วยเช่นกัน เขาคนนั้นก็คือ คัง แดเนียล นั่นเอง โดยแดเนียลจะเป็นผู้บอกภารกิจต่าง ๆ และกติกาให้กับทีมเต้นทุกคนทราบ โดยแต่ละภารกิจก็จะมี Fighter Judge เป็นผู้ตัดสิน และบางภารกิจก็จะมีคะแนนโหวตจากสาธารณะชน (ผ่านทางยอดวิวและยอดไลค์บน YouTube)
ซึ่ง Fight Judge ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน แต่เป็นบุคคลที่คลุกคลีอยู่ในวงการนักเต้น ได้แก่ แทยง จาก NCT, โบอา ไอดอลผู้เก่งรอบด้าน และ ฮวางซังฮุน จาก Black Beat บอยกรุ๊ปที่ Debut ตั้งแต่ปี 2000 ซึ่งทั้ง 3 คนนั้นมาจากค่าย SM Entertainment ที่เป็น Top 3 ของวงการบันเทิงเกาหลี การันตีความสามารถเป๊ะปังแน่นอน
ว่าแล้วเราก็มาดูรายชื่อภารกิจทั้ง 8 และทีมที่ชนะกับทีมที่ทุกคัดออกกันเลยดีกว่า
ภารกิจ | กติกา |
ภารกิจที่ 1 : Battle of the Underdog | ผู้เข้าแข่งขันสามารถแปะสติ๊กเกอร์ “No Respect” ให้กับคนที่ตัวเองคิดว่าสามารถ Battle ด้วยได้ และต้องทำการ Battle กันเพื่อเก็บแต้ม โดยมี Fight Judge เป็นผู้ตัดสิน ซึ่งทีมไหนชนะมากที่สุดและแพ้น้อยที่สุด ก็จะกลายผู้ชนะของ Mission นี้ |
ภารกิจที่ 2 : Rank Mission | หัวหน้าทีมจะต้องวางแผนเลือกสมาชิก 5 คน (รวมตัวเองด้วย) เข้าไปอยู่ในแต่ละ Rank โดยที่ทุก Rank จะต้องสร้าง Dance Video ขึ้นมา ซึ่งแต่ละ Rank จะมีสมาชิกจากทุกทีมเข้าไปรวมตัวกัน เพื่อแย่งชิงการเป็นผู้คิดท่าเต้น และแย่งชิงตำแหน่ง Main Dancer ในวิดีโอนั้น ซึ่ง Main Dancer จะสามารถเลือก Worst Dancer ใน Rank เพื่อให้ไปทำ Dance Battle อีกครั้ง หากแพ้ก็จะเสียคะแนนรวมของทีม และในภารกิจนี้ Fight Judge จะเลือกทีมที่มีนักเต้นโดดเด่นในทุก Rank เป็น MVP ของ Mission |
ภารกิจที่ 3 : 4 Queens of K-Pop Mission | MVP ของ Mission ก่อนหน้าจะเป็นผู้เลือกจับคู่ทีมที่ต้องมาแข่งขันกัน โดยมีเพลงโจทย์จาก 4 ราชินีแห่ง K-pop ได้แก่ BoA, CL, Jessi และ Hyuna โดยพวกเขาจะต้องทั้งออกแบบท่าเต้น และ Copy ท่าเต้นของอีกฝั่ง เพื่อแข่งขันกันหาผู้ชนะ ซึ่งรอบนี้้จะตัดสินจากคะแนนของ Fight Judge + การโหวตทาง YouTube + คะแนนของ Main Dancer + คะแนนของ Worst Dancer จากภารกิจก่อนหน้า โดยทีมที่ได้คะแนนน้อยที่สุด 2 ทีมจะต้องทำการ Battle กัน และมีการคัดออกเป็นครั้งแรก |
ภารกิจที่ 4 : Mega Crew Mission | เป็นภารกิจที่ทีมต้องสร้างสรรค์เวที Mega Crew ที่มีนักเต้นบนเวทีจำนวนมาก เน้นการออกแบบท่าและการแปรแถวเพื่อความสวยงาม โดยจะต้องมีนักเต้นอย่างน้อย 25 คนบนเวที (รวมสมาชิกในทีมตัวเองด้วย) ซึ่งตัดสินจากคะแนนของ Fight Judge + การโหวตทาง YouTube โดยทีมที่ได้คะแนนน้อยที่สุด 2 ทีมจะต้องทำการ Battle กัน และมีการคัดออกเป็นครั้งที่สอง |
ภารกิจที่ 5 : Jessi Choreography Mission | ภารกิจสุดเซอร์ไพรส์เมื่อทุกทีมจะต้องมาออกแบบท่าเต้นในเพลงเดียวกัน ซึ่งนั่นก็คือเพลง “Cold Blooded” ของแรปเปอร์สาว Jessi โดยรอบนี้ทีมที่ถูกเลือกโดย Jessi และทีมที่มียอดไลค์มากที่สุดจะได้คะแนนเพิ่ม |
ภารกิจที่ 6 : Men of Women Mission | ภารกิจที่ทีมเต้นจะต้องชวนนักเต้นชายมาร่วมทำ Performance ด้วยกัน โดยคะแนนจะถูกนับรวมจาก Fight Judge + การโหวตทาง YouTube + คะแนนเพิ่มจากภารกิจ Jessi โดยภารกิจนี้ทีมที่มีคะแนนต่ำสุดจะถูกคัดออกทันที และอีก 2 ทีมที่ได้คะแนนน้อยที่สุดจะต้องทำการ Battle กัน และมีการคัดออกเป็นครั้งที่สาม |
ภารกิจที่ 7 : Performance Song Mission | ทีมเต้นจะต้องทำงานร่วมกับศิลปินเพื่อคิดท่าเต้นให้กับเพลงใหม่ ประกอบการแสดงบนเวที โดยมี Idol ที่มาเข้าร่วมการแสดงดังนี้ ชองอา, CL, Simon Dominic & Loco และ Sunmi |
ภารกิจที่ 8 : Color of Crew Mission | ทีมเต้นสามารถเลือกเพลง ออกแบบการแสดงได้เองอย่างอิสระ เพื่อโชว์สีสันเฉพาะตัวของแต่ละทีม |
ซึ่งวันนี้เรามี Highlight จาก Mission ที่น่าสนใจมาเล่าให้ฟังแบบกรุบกริบ เผื่อจะช่วยให้คุณตัดสินใจดูรายการนี้ได้ง่ายขึ้น
ซีนเด็ด วลีดัง และกระแสสุดปังจากแต่ละ Mission ใน Street Woman Fighter
อย่างที่บอกว่ารายการนี้เป็นรายการที่ปลุกกระแสนักเต้นให้ลุกเป็นไฟ และได้รับความสนใจจากหลายประเทศทั่วโลก เราเลยอยากพาไปดูซีนเด็ด ๆ จาก Mission สำคัญ ๆ กันค่ะ
ภารกิจที่ 1 : Battle of the Underdog
ใน Episode 1-2 ส่วนใหญ่เราจะอยู่ใน Fight Zone ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับ Battle ของรายการ ไม่ว่าจะแบบเดี่ยว แบบทีม หรือใช้เป็นที่คัดเลือกทีม เป็น Stage ที่ออกแบบมาสวยงามและจะเห็นได้บ่อยในช่วง EP แรก ๆ โดยจะมีพิธีกรคอยประกาศกติกาต่าง ๆ และมี Fight Judge นั่งรับชมการ Battle อยู่บนเวทีเลย เปรียบเสมือนสังเวียนมวยที่ให้แต่ละคนมาต่อสู้กันด้วยการเต้นนั่นเอง ซึ่งวันนี้เราจะคัดเลือก Battle เด็ด ๆ จาก Mission ที่ 1 มาเล่าให้ฟังเป็นน้ำจิ้มกันซะหน่อย
เริ่มต้นที่ Battle ที่ทุกคนลุ้นเพราะเป็นการแข่งขันระหว่างคนเคยรักกัน (เจ้าตัวเค้าว่าอย่างงั้นนะคะ) ได้แก่ ริเฮ จาก CocaNButter และ ฮันนี่เจ จาก HolyBang เพราะทั้ง 2 คนเคยอยู่ทีมเต้นเดียวกันที่ชื่อว่า Purplow ที่ทำงานให้กับนักร้องหนุ่มอย่าง Jay Park แต่อยู่ดี ๆ ก็มีเรื่องให้ห่างหายกันไปซึ่งเกิดจากความเข้าใจผิดกัน แต่การโคจรกลับมาเจอกันในรายการนี้เปรียบโชคชะตาที่ทั้ง 2 จะได้กลับมาเต้นด้วยกันอีก การแข่งขันนี้จึงให้ฟีลเหมือนแฟนเก่าที่เลิกกันไปกลับมาเจอกันอีกครั้ง แต่สร้างความทึ่งให้กับใครหลายคนเพราะมีจังหวะหนึ่งที่ทั้งสองคนเต้นท่าเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมาย (เนื้อคู่ชัด ๆ) เรียกว่าอยู่ด้วยกันมานานก็ต่างซึมซับกันและกันไป และตอนจบทั้ง 2 คนก็ได้เข้ามากอดกัน และพูดคุยกันหลังจากที่ไม่ได้คุยมานาน ทำให้ Battle นี้จบลงด้วยความอบอุ่นหัวใจ ใครดูเป็นต้องร้องไห้ตามแน่นอน
หรือจะเป็น Battle ของศิษย์ล้างครูอย่าง โรซาลิน จาก WANT กับ ลิปเจ จาก PROWDMON ผู้เป็นนักเต้นสาย Waacking ตัวแม่ ทั้ง 2 คนเต้นด้วยกันโดยน้องโรซาลินของเราเนี่ยก็เป็นลูกศิษย์ของลิปเจซะด้วยสิ แต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้โรซาลินแยกตัวออกมาและไม่ได้พานพบกับลิปเจมานาน เธอจึงใช้โอกาสนี้ในการ Battle กับอาจารย์อีกครั้ง เรียกว่ามันความดุเด็ดเผ็ดมันส์มาก เพราะไม่มีใครยอมใครเลยจริง ๆ เป็น Battle ที่คนดูไม่อยากให้จบ (แต่คนเต้นอยากจบจะแย่แล้ว)
หรือจะเป็น Battle ที่เริ่มต้นด้วยความมาคุระหว่าง กาบี จาก LACHICA และ ไอกิ จาก HOOK ที่เปิดประเด็นมาจากการเขม่นกันเล็กน้อยที่ท่าเต้นของไอกิได้รับเลือกจากรายการ Refund Sister เพื่อนำไปใช้ประกอบเพลง Don’t Touch Me ทำให้ทาง LACHICA ที่ออกแบบท่าเต้นให้ทางรายการด้วยนั้นรู้สึกตะขิดตะขวงใจในฝีมือของไอกิ เธอจึงขอประชันกัน เป็น Battle ของหัวหน้าทีมโดยแท้ แต่ดันจบลงด้วยความฮาซะงั้น จะฮาขนาดไหน ลองไปดูกันเลย
ซึ่งจริง ๆ แล้วยังมี Battle อื่นอีกมากมายที่น่าจดจำ ทั้งสนุก เศร้า ซึ้ง แค้นเคือง จัดจ้าน เรียกว่าเป็นรายการที่เปิดตัวมาได้ครบรสมากแม่ ใครดูเป็นต้องติดแน่นอน เพราะเราเองก็โดนนักเต้นหลายคนตกตั้งแต่ตอนดู Battle นี่แหละค่ะ แนะนำว่าห้ามพลาดซัก Battle เลยนะ
ภารกิจที่ 2 : Rank Mission
ภารกิจนี้เป็นภารกิจที่ต้องใช้ทั้งกลยุทธ์ในการวางตัวลูกทีมและความสามารถ ความโดดเด่นของแต่ละคน ที่ต้องไปเอาชนะทีมอื่น ๆ ใน Rank เดียวกันให้ได้ โดยเราได้นำการแข่งขันตัวอย่างของ Leader Group ที่ได้รับโจทย์เป็นเพลง Hey Mama ซึ่งกลายเป็นที่มาของกระแส “Hey Mama Noze Version” ที่คนนำไปเต้นกันทั่วบ้านทั่วเมือง ทำให้หลังจากนี้การฟังเพลง Hey Mama จะทำให้เราหยุดเต้นไม่ได้อีกต่อไป ลองไปดูรอบคัดเลือก Main Dancer กันเลยค่ะ
ต้องบอกก่อนว่า ถ้าใครได้ดูรายการเต็ม จะเห็นความช่างวางแผนของ Leader แต่ละคนเลยนะคะ บางคนนี้ถึงกับประกาศกร้าวเลยว่า ฉันจะแย่งท่าเต้นของเธอมาเป็นของฉัน เพราะท่าเต้นเธอง่าย ฉันจะได้เฉิดฉายจากท่าเต้นของเธอ แต่สุดท้ายผลปรากฎว่าเหล่า Fight Judge ได้เลือกโนเจให้เป็น Main Dancer ซึ่งเธอก็เป็นผู้คิดท่าเต้นนี้เองซะด้วย เรียกว่ารักษาศักดิ์ศรีไว้ได้ และนี่คือผลงาน Final ของ Rank หัวหน้าทีมที่ถือว่าออกมา Perfect อลังการ ตระการตา แถมมี Effect จัดเต็มจุก ๆ เสื้อผ้าหน้าผมแต่ละคนก็คือโดดเด่นมาก
บอกเลยว่ากวาดสายตาดูแทบไม่ทัน เพราะคาริสม่าของ Leader แต่ละคนคือล้นทะลักมาก ไม่มีใครยอมใครจริง ๆ จิกกล้องกันกระจาย เป็นอีกหนึ่ง Stage ที่ฉายแววให้เห็นว่าชีวิตพวกเธอกำลังจะเปลี่ยนไป เพราะหลังจากนี้พวกเธอจะดังเป็นพลุแตกแน่นอน
นี่ขนาดแค่ถ่ายรูป Group Shot แบบขำ ๆ ยังปังขนาดนี้ ถ้าได้ถ่ายแบบจริงจังจะปังขนาดไหนล่ะแม่ แต่ภารกิจนี้ไม่ได้มีแค่ Dance Video สุดปัง ยังมีประโยคเด็ดที่ใคร ๆ ก็เอาไปพูดกันทั่วบ้านทั่วเมืองที่ว่า “ดูให้ดี ๆ นะ นี่คือการต่อสู้ของพี่สาว” หรือ “잘봐 언니들 싸움이다” เป็นประโยคที่โชว์ความสตรองในรูปแบบออนนี่ได้ดีเยี่ยมมาก ทำเอาแดนเซอร์ทุกคนในสตูถึงกับปรบมือให้รัว ๆ
ซึ่งประโยคนี้มาจาก ฮันนี่เจ จาก HolyBang ที่พูดออกมาหลังจากถูกเลือกเป็นคู่ต่อสู้โดย Worst Dancer ในรอบนั้นซึ่งได้แก่ โมนิกา จาก PROWDMON นั่นเอง ลองไปฟังประโยคเด็ดจากปากเธอกันเลย
ไหน ๆ ได้ฟังประโยคเด็ดไปแล้ว ก็ลองมาดู Battle เด็ดจากหัวหน้าทีมสุดแกร่งทั้ง 2 กันด้วยเลยดีกว่า
ภารกิจที่ 5 : Jessi Choreography Mission
อีกหนึ่งภารกิจสุดเปรี้ยวที่เหล่าทีมเต้นจะต้องมาออกแบบท่าเต้นให้กับเพลงใหม่อย่าง Cold Blooded จากสาวสุดมั่นอย่าง Jessi เรียกว่าเป็นภารกิจที่ต้องออกแบบท่าเต้นมาให้ตรงจริตนักร้องสาว แต่ก็ต้องให้ชาวเน็ตชื่นชอบด้วย ซึ่งถึงแม้ว่าภารกิจนี้จะมีผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวที่ได้ใจสาวเจสซี่ไป แต่เธอก็ได้ให้ทุกทีมที่ผ่านเข้ารอบมาถ่ายทำ MV ด้วยกัน โดยให้แอร์ไทม์สาว ๆ นักเต้นเยอะกว่าตัวเธอเองซะอีก เรียกว่างานนี้แม่ได้ใจชาวเน็ตไปเต็ม ๆ แถมเหล่านักเต้นก็ได้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นไปอีก ว่าแล้วก็ลองไปดู MV เพลงนี้กันเลยจ้า บอกเลยว่างานนี้ค่าย P Nation ก็คือได้รับคำชื่นชมไปเต็ม ๆ
กระแสรายการ Street Woman Fighter ที่ดังต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน จนเกิด Spin-off มากมาย
ถึงแม้ว่ารายการนี้จะจบลงไปแล้ว และเราได้ผู้ชนะจากรายการ นั่นก็คือ ทีม HolyBang ที่นำโดยคุณฮันนี่เจ แต่กระแสของรายการกลับยังไม่จบ และยังคงดำเนินต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ จนเกิดให้เป็นรายการใหม่ ๆ อีกมากมายที่มามอบความสนุกให้กับวงการบันเทิง
นอกจากรายการที่ดังต่อเนื่องแล้ว ตัวนักเต้นแต่ละทีม และแต่ละคนเองก็ได้รับโอกาสมากมาย ทั้งงานในรูปแบบใหม่ ๆ ที่มากกว่าการเต้น เช่น งานถ่ายแบบ งานโฆษณา งานร้องเพลง งานออกรายการวิทยุ โทรทัศน์ เรียกว่าเป็นการขยายเส้นทางอาชีพนักเต้นให้กว้างขึ้น และเป็นกำลังใจให้นักเต้นรุ่นใหม่ ๆ ได้เดินหน้าตามความฝันกันต่อไป ว่าแล้วเราก็มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีกระแส Spin-off อะไรเกิดขึ้นจากรายการนี้บ้าง
Street Woman Fighter Concert
ใช่ค่ะ คุณอ่านไม่ผิด บรรดานักเต้นจากทั้ง 8 ทีมของเรา เค้ามีเวทีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเองด้วยนะคะ และไม่ใช่แค่ 1 งานเท่านั้น เพราะเค้าเดินสาย On tour ไปโชว์ในหลายเมืองใหญ่ ๆ ของเกาหลี เรียกว่ามีคอนเสิร์ตทั่วประเทศสำหรับนักเต้น อาจฟังเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะปกติแล้วคอนเสิร์ตส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจากศิลปินหรือ Idol เท่านั้น กระแสนี้ถือเป็นการพลิกบทบาททำให้นักเต้นเป็นดาวเด่นบนเวที และมีแฟนคลับเข้ามาให้กำลังใจกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งเลยค่ะ เห็นแล้วก็อยากจะไปอยู่ในนั้นบ้าง แต่ไม่มีโอกาสได้ไป เลยต้องคอยดูแฟนแคมตาม YouTube เอา ซึ่งวันนี้เราก็มีแฟนแคมน่ารัก ๆ มาฝากกันด้วยนะคะ ลองไปดูบรรยากาศตอนที่ Battle กันเลยค่ะ
Street Woman Fighter Gala Talk Show
รายการต่อเนื่องหลังจากจบการแข่งขัน เป็นการนำเหล่านักเต้นมานั่งพูดคุยกัน เผยความลับบางอย่าง ทั้งเรื่องซึ้ง เรื่องที่เราคาดไม่ถึง เรื่องราวในอดีต หรือเรื่องตลก ๆ ที่เป็นกระแสในปัจจุบัน รวมไปถึงการชวนเหล่า Street Gag Woman Fighter ผู้ที่ทำรายการล้อเล่นเหล่านักเต้นของเรา มาโชว์สร้างสีสันและ Battle กันระหว่างตัวจริงกับตัว Gag ซึ่งเรียกเสียงฮาไปได้มากเลยทีเดียว
อีกหนึ่งโชว์ที่สร้างความประทับใจให้ทุกคนเป็นอย่างมากคือการเต้นเพลง Gee ในรูปแบบของ PROWDMON ซึ่ง Stage นี้คุณโมนิกาได้เผยว่า ความจริงเธอเตรียมไว้สำหรับใช้ Battle ในการแข่งขันก่อนเข้าสู่ Final แต่ใครจะรู้ว่าทีมเธอจะได้คะแนนน้อยจนถูกคัดออกอัตโนมัติ สิ่งที่เตรียมไว้ก็เลยไม่ได้โชว์ เธอจึงขอนำมาโชว์ในรายการนี้ ซึ่งบอกเลยว่า ควรค่าแก่การรับชมจริง ๆ ค่ะ
We Don’t Bite: Street Woman Fighter Leader
อีกหนึ่งรายการที่ได้รับความนิยมอยู่แล้วอย่าง We Don’t Bite เป็นรายการที่จะให้แขกรับเชิญไปอยู่ด้วยกันที่บ้านร้าง ซึ่งพวกเธอจะต้องช่วยกัน Renovate ใหม่ให้เข้ากับฤดูหนาว ซึ่งแก๊งหัวหน้าได้เข้าไปดำเนินรายการต่อจากเหล่าตัวร้าย (Villains in the Countryside) ที่เคยเข้าไปอาศัยอยู่ในช่วงฤดูร้อนก่อนหน้านั้น พวกเธอจะต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในชนบท ทำอาหาร จัดปาร์ตี้ พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เป็นรายการที่ทำให้เราเห็นอีกด้านของพวกเธอที่อ่อนโยน จับต้องได้ และเห็นมิตรภาพดี ๆ ที่มีให้กัน วันนี้เรามีตัวอย่างสั้น ๆ จากรายการมาให้ดูกันด้วยค่ะ เป็นตอนที่สาวสวยโนเจปลอมตัวเป็นทีมงานเพื่อหลอกสมาชิก หลังจากที่เธอเคลียร์ตารางงานแล้วรีบตามมา เหล่าสมาชิกที่คิดว่าเธอมาไม่ได้ต่างก็ไม่ได้คาดหวัง แต่แล้วเธอก็มาเซอร์ไพรส์ ทำให้หัวหน้าได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง
Fashion Shooting และงานโฆษณาอีกมากมาย
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความโด่งดังที่ได้มามีมูลค่าที่ติดตามมาด้วย เพราะพวกเธอเริ่มได้รับเชิญจากนิตยสารต่าง ๆ ให้ไปถ่ายแบบขึ้นภาพปกนิตยสาร ทั้งในรูปแบบกลุ่มหัวหน้า แบบทีม หรือแบบเดี่ยวด้วยก็มี แค่นั้นยังไม่พอ บางคนก็มีงานโฆษณาเข้ามากมาย ทั้งจากแบรนด์ใหญ่ระดับโลก ไปจนถึงแบรนด์ในเกาหลีเอง จะสังเกตได้ว่าหลัง ๆ นี้บน SNS ของพวกเธอก็เริ่มมีการโพสต์งานมากขึ้นแล้ว ได้เห็นแบบนี้เหล่าผู้สนับสนุนอย่างเราก็ดีใจไปกับพวกเธอด้วย
รายการภาคต่อของ Street Woman Fighter ตอกย้ำกระแส Dance Fever ของแท้
ความดัง ความปัง ยังไม่จบแค่นั้น เพราะทางช่องได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของนักเต้นในเกาหลี จึงผลิตรายการภาคต่อที่มาตอกย้ำกระแสการเต้นนี้ให้ลุกเป็นไฟอย่างต่อเนื่อง
Street Dance Girl Fighter (스트릿댄스 걸스 파이터)
เริ่มต้นจากรายการ Street Dance Girls Fighter เปรียบเสมือนรายการของรุ่นน้อง ที่ให้นักเต้นวัยมัธยมรวมตัวกันมาแข่งขัน โดยมีเมนเทอร์เป็นเหล่าหัวหน้าทีมและมือขวาจากทั้ง 8 ทีม มาเป็นทั้งผู้สอน เป็นกรรมการ และร่วมฝ่าฟันภารกิจต่าง ๆ ไปกับเด็ก โดยรายการก็ได้เปิดตัวด้วยภารกิจ One Performance ที่มีการปกปิดชื่อทีมไว้ก่อน แล้วให้ชาวเน็ตได้เข้ามาชื่นชมฝีมือและต่างพากันคาดเดาว่า ทีมไหนอยู่ในสังกัดของเมนเทอร์ใด
เราจึงขอเลือก Performance ที่ประทับใจมากที่สุดมาให้รับชมเป็นน้ำจิ้ม ซึ่ง Performance นี้ก็สร้างชื่อเสียงให้กับรายการเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีการหยิบเพลงของ MILLI แรปเปอร์ชาวไทยไปใช้เป็นเพลงประกอบการแสดงด้วย ปังสุด ๆ
Anybody Can Dance (뚝딱이의 역습)
รายการ Anybody Can Dance เป็นรายการเต้นที่มาพร้อม Concept สุดน่ารัก เพราะเป็นรายการสำหรับขาเต้นกุกกัก หรือนักเต้นที่มีใจแต่ขากับแขนไม่ไปด้วยกันนั่นเอง เหล่าหัวหน้าทีมจะเปลี่ยนบทบาทมาเป็นครูสอนเหล่าสมาชิกกุกกักที่เข้ามาออดิชันให้กลายเป็นนักเต้นเท้าไฟภายในเวลาเดือนกว่า ๆ เท่านั้น บอกเลยว่าผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนไม่ใช่เล่น ๆ เลย มีทั้งคนที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันจากหลากหลายวงการ ไปจนถึงคนที่เป็นดาวเด่นเลยก็มี
และนี่คือหนึ่งใน Stage ที่ออกแบบโดยหัวหน้าทีม และฝึกสอนเหล่านักเต้นกุกกักให้ทำการแสดงได้อย่างมืออาชีพ ถ้าไม่เชื่อ ลองไปดูคลิปนี้กันเลย
Street Man Fighter (스트릿 먼 파이터)
อีกหนึ่งรายการที่ใครหลายคนรอคอย อย่าง Street Man Fighter การแข่งขันเต้นของทีมนักเต้นชายชาวเกาหลีใต้ที่ทุกคนต่างเรียกร้องให้มี เพราะดูจากดีกรีความฮ็อตปรอทแตกของ Street Woman Fighter แล้ว ฝ่ายชายของเราก็ไม่น่าจะเป็นสองรองกัน แต่ก่อนที่รายการจะเริ่มออนแอร์ ทาง MNET ก็ได้เปิดโอกาสให้นักเต้นชายที่ไร้สังกัดมาเข้าร่วมแข่งขันในรายการ Prequel อย่าง Be Ambitious ที่มีหนุ่มเรนเป็นพิธีกร ถึงแม้จะเป็นรายการสั้น ๆ แต่การแข่งขันนั้นโหดมาก เพราะเหล่านักเต้นไร้สังกัดจะต้องมาฝ่าฟันภารกิจเพื่อให้เข้าไปเป็น 8 คนสุดท้ายเพื่อฟอร์มทีมเต้นที่ชื่อว่า “MBitious” และเป็นทีมที่เข้าแข่งขันในรายการ Street Man Fighter นั่นเอง
และนี่คือผลผลิตจากรายการ Be Ambitious เป็นคลิปเปิดตัวภารกิจแข่งขันที่ทางทีม MBtious ต้องมา Battle กับทีมเต้นสุดโหดที่มีฐานแฟนคลับทั่วโลกอย่าง YGX ผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร ต้องไปติดตามในรายการเลย
จากนักเต้น Backup สู่การเป็นดาวเด่นบนเวที
เป็นยังไงกันบ้างคะ หลังจากได้อ่านรีวิวรายการ Street Woman Fighter และกระแสต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากรายการจบ บอกเลยว่านี่คือความยิ่งใหญ่ของวงการบันเทิงเกาหลี ประกอบกับความสามารถของเหล่าแดนเซอร์ ที่ทำให้มีปรากฏการณ์ที่น่าประทับใจแบบนี้ได้ นักเต้นบางคนถึงกับเคยถอดใจและคิดว่าต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในฐานะ Backup ที่แสงสปอร์ตไลท์ส่องไม่ถึง แต่วันนี้โลกกลับเป็นไปสำหรับพวกเธอ เพราะพวกเธอได้กลายเป็นดาวเด่นตัวจริง พวกเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุนให้พวกเธอได้เป็นดาวเด่นต่อไปอีกนานแสนนาน เพราะทุกคนล้วนแล้วแต่มีความสามารถจึงทำให้วันนี้พวกเธอประสบความสำเร็จได้ เป็นฝันที่มากกว่าฝัน และเป็นฝันที่กลายเป็นจริงแล้วนั่นเอง
อยากรู้จักวงการบันเทิงเกาหลีให้มากกว่านี้ คลิกที่นี่เลย
ขอบคุณภาพประกอบบทความ:
https://www.mwave.me
https://www.dreamers.id
https://i.mydramalist.com
https://kpopmap.com
https://koreatimes.co.kr
https://viu.com