สถานที่ท่องเที่ยวที่มีหลากหลายกิจกรรมให้ทำและผสมผสานความเป็นธรรมชาติอย่างลงตัว
เกาหลีขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศแห่งการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วทุกมุมโลกจากอิทธิพลของ K-Pop ทำให้โซลเป็นจุดหมายปลายทางที่ทุกคนอยากไป แต่ความจริงแล้วเกาหลียังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกมาก สำหรับใครที่อยากเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ กับการเที่ยวนอกโซล วันนี้เราจะมาเปิดประสบการณ์ให้ทุกคนกัน
Pocheon Herb Island หรือ เกาะสมุนไพรโพชอน ตั้งอยู่ในเมืองโพชอน ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวกึ่ง Theme Park กึ่ง Workshop ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ โดยมีจุดเด่นหลักที่เป็นตัวชูโรงคือ “สมุนไพร“ ซึ่งสถานที่ที่แห่งนี้ทำให้เรื่องสมุนไพรกลายเป็นเรื่องที่จับต้องได้ และมีความน่ารักแฝงอยู่ในทุกอณู
แผนที่ภายใน Pocheon Herb Island
ถ้าจะเที่ยวให้สนุก แน่นอนว่าต้องศึกษาแผนที่กันก่อนว่าที่นี่มีอะไรให้เที่ยวบ้าง ซึ่งภายในเกาะสมุนไพรโชอนถือว่าพื้นที่กว้างขวางมาก จะแบ่งออกเป็นกี่โซน และเป็นโซนอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
ภายในเกาะสมุนไพรโพชอน แบ่งออกเป็น 4 โซนใหญ่ ๆ ดังนี้
- Healing Zone
- Santa Zone
- Scent Zone
- Venezia Zone
ซึ่งวันนี้เราเก็บภาพบรรยากาศในแต่ละโซนมาฝากเป็นน้ำจิ้ม เพื่อกระตุ้นต่อมอยากเที่ยวให้กับผู้อ่านรีวิวทุกคนกันค่ะ ไปเริ่มกันเลย
Healing Zone
โซนสำหรับการบำบัดฟื้นฟูร่างกาย เป็นจุดที่มีทั้ง Hern Usan-gil และ Sky Herb Farm รวมทั้งสวนสวย ๆ ให้เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ เรียกว่าเป็นโซนแรกที่เราสามารถเดินเข้าไปสำรวจได้ง่ายเพราะอยู่ใกล้กับที่จอดรถนั่นเอง ซึ่งในโซนนี้จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกัน
เริ่มต้นที่ร้านขายเทียนกันก่อนเลย เพราะเป็นจุดแรกที่ใกล้กับที่ซื้อตั๋วมากที่สุด และเป็นที่ที่อยากแวะเข้าไปดูของกระจุกกระจิกน่ารัก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแนวเทียนหอมที่มีกลิ่นสมุนไพรตรงกับธีมของเกาะสมุนไพร
นอกจากเทียนหอมแล้ว เค้าก็ยังมีของตกแต่งบ้านชิ้นเล็ก ๆ เป็นรูปปั้นตุ๊กตา รูปปั้นสัตว์ที่สามารถใช้ตั้งโชว์ได้ และยังใช้เป็นที่รองเทียนหอม รวมไปถึงเชิงเทียนก็มีด้วยนะ
จะเห็นว่ามีของตกแต่งนานาชนิด ถ้าใครกำลังมองหาของตกแต่งบ้านแนวธรรมชาติอยู่ล่ะก็ ลองแวะดูที่นี่ได้เลย
Santa Zone
โซนหมู่บ้านซานต้าที่จะพบทั้งสถาปัตยกรรมและการตกแต่งสวนให้กลายเป็นหมู่บ้านของซานตาคลอส มีบริเวณที่กว้างขวาง สามารถเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจได้
สำหรับโซนนี้ ถือว่าเหมาะกับคนที่ชอบถ่ายรูปกับสถาปัตยกรรม เพราะเค้ามีการตกแต่งที่ผสมผสานกันกับธรรมชาติ มีน้ำพุเพิ่มความหรูหราและมีรูปปั้นยุโรปมากมาย ให้ฟีลเหมือนได้ไปเที่ยวยุโรป
และนอกจากนั้นยังมีเมืองเทพนิยาย มีรูปปั้นและการจัดแสดงห้องที่สอดคล้องกับเนื้อเรื่องในนิทานวัยเด็ก สามารถมาย้อนวัยไปด้วยกันได้ที่นี่
พอตกค่ำเค้าก็เริ่มเปิดไฟที่ประดับบนต้นไม้ เนื่องจากช่วงที่เราไปเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง จึงทำให้ต้นไม้เริ่มแห้ง บางต้นจึงต้องมีไฟประดับ
แต่บางต้นก็เพิ่งเริ่มเปลี่ยนสี ซึ่งมีความสวยงามน่าดูสำหรับคนที่ไม่เคยเที่ยวในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี และในโซนนี้ก็จะมีจุดที่เชื่อมต่อไปยังโซน Venezia ด้วยนั่นเอง
Scent Zone
โซนที่เป็นศูนย์รวมคาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึกที่เกี่ยวกับสมุนไพรและเครื่องหอมต่าง ๆ และยังมีถนนแห่งความทรงจำ ที่รวมความเป็นเกาหลีในอดีตไว้ให้เราได้ย้อนวันวานไปด้วยกัน
นี่คือโซนที่จำลองบ้านของชาวเกาหลีในอดีต มีทั้งข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องต่าง ๆ ที่จำลองไว้ ไปจนถึงตัวอาคารบ้านเรือน
นอกจากนี้ยังมีการจำลองโรงเรือน สถานที่เก็บสิ่งเพาะปลูกต่าง ๆ ในแบบฉบับเกาหลีโบราณด้วย
รวมไปถึงห้องครัว อุปกรณ์ในครัว จาน ชาม ช้อน ส้อม ตะเกียบ ในแบบเกาหลียุคโบราณ
และในโซนนี้ก็มีร้านอาหารที่จำลองบรรยากาศร้านอาหารเกาหลีโบราณไว้สำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ยังไม่พอ เพราะเค้ามีการจำลองร้านขนมในวัยเด็กของชาวเกาหลี และสามารถซื้อได้จริงด้วยนะ เรียกว่าชาวต่างชาติอย่างเราได้เห็นแล้วก็ตื่นเต้น นึกเทียบกับขนมวัยเด็กที่ไทย ชาวเกาหลีเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กันเพราะได้เห็นขนมที่ตัวเองเคยกินในวัยเด็กนั่นเอง
ส่วนสุดท้ายของโซนนี้ที่ถือเป็น Highlight ก็คือร้านขายเครื่องหอม
ภายในร้านจะมีการตกแต่งด้วยสมุนไพรนานาชนิด ๆ ที่ใช้เป็นส่วนประกอบของสินค้าที่อยู่ในร้าน และเป็นสมุนไพรที่ปลูกที่นี่
โซนนี้มีขายไวน์ด้วยนะจ๊ะ ถ้าใครอยากลองชิมก็เชิญมาที่โซนนี้ได้เลย
นอกจากนั้นก็มีขายเครื่องหอมต่าง ๆ ทั้งสบู่ การบูร น้ำหอม สเปรย์ และอื่น ๆ อีกมากมายที่มีกลิ่นหอมสมุนไพร
ลูกอมจากสมุนไพรก็มีนะเออ แถมมีหลากหลายรสชาติให้เลือกช้อปด้ว
จุดนึงที่ชอบเลยก็คือร้านนี้มีการตกแต่งเพดานด้วย เป็นเพดานดอกไม้ที่ให้ความรู้สึกละมุนมาก ๆ ตอนที่เข้ามาเดินอยู่ข้างใน
Venezia Zone
โซนที่จำลองบรรยากาศแบบอิตาลีมาไว้ในเกาะสมุนไพร มีทั้งเรือกอนโดล่าจำลองให้นั่ง มีปราสาทสมุนไพรที่อยู่ศูนย์กลาง และมีลานกิจกรรมสำหรับโชว์ในช่วงเย็น นอกจากนี้ทางด้านหน้ายังมีสวนดอกไม้และน้ำตกจำลองที่เป็นจุดถ่ายรูปเด็ด ๆ อีกด้วย
และนี่คือน้ำตกจำลองที่ใครมาถึงแล้วเป็นต้องถ่ายรูปเช็คอินยืนยันกันซักหน่อย
ส่วนโซนนี้ถือว่าเป็น Highlight ของ Venezia Zone เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นจุดที่ตกแต่งสวยงาม แถมยามค่ำคืนยังมีไฟประดับด้วย สร้างความคึกคักให้กับนักท่องเที่ยวภายในเกาะสมุนไพรเป็นอย่างมาก
ซึ่งทางเข้าโซนจะมีร้านรวงขายของอยู่รอบข้าง มีลานกิจกรรมที่อยู่ตรงกลาง และมีคลองจำลองเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือกอนโดล่าจำลองวนรอบโซนนี้ได้ด้วย
ในยามค่ำคืนนักท่องเที่ยวก็จะมานั่งรอชมกิจกรรมหรือโชว์พิเศษในวันนั้น ๆ และมีร้านขายอาหารเครื่องดื่มเล็ก ๆ บริการอยู่โดยรอบด้วย
หรือถ้ายังไม่จุใจกับการเดินชมร้านรวงต่าง ๆ ก็แนะนำว่าเข้ามาเดินเล่นในร้านที่อยู่รอบ ๆ โซนนี้ก่อนได้
เมื่อเข้ามาในร้านก็จะเห็นการตกแต่งที่สวยงาม แปลกตา และทั้งหมดล้วนมีส่วนประกอบของสมุนไพรอยู่ทั้งหมด
นอกจากนี้ก็ยังมีโซนให้ได้นั่งพัก หรือนั่งถ่ายรูปกันเก๋ ๆ ด้วย
จุดเด่นของที่นี่คือการตกแต่งที่ผสมผสานธรรมชาติและสมุนไพรเข้าไปในทุกอณู และพื้นที่ที่กว้างขวางมาก ๆ ซึ่งถ้าเกิดอาการเมื่อยขึ้นมาล่ะก็ เค้าก็มีเก้าอี้นวดบริการอยู่ด้วยน้า ครบเครื่องจริง ๆ
ครบแล้วทั้ง 4 โซนในเกาะสมุนไพรโพชอนแห่งนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวนอกเมืองไม่มากก็น้อยนะคะ
และสำหรับใครที่อยากไปตามรอย ขอแนะนำวิธีการเดินทางดังนี้เลยค่ะ
การเดินทางไปยังเกาะสมุนไพรโพชอน (Pocheon Herb Island)
หากต้องการเดินทางโดยรถไฟใต้ดิน: ให้ขึ้นรถไฟใต้ดินจากโซลที่สถานี City Hall ไปลงที่สถานี Soyosan และต่อแท็กซี่ไปยังเกาะสมุนไพร (ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร)
หากต้องการเดินทางโดยรถบัส: ให้ขึ้นรถบัสสาย 3001-1 Red Bus หรือ 3000 Red Bus ที่สถานี Dong Seoul Bus Terminal ไปลงที่สถานี Pocheon และต่อแท็กซี่ไปยังเกาะสมุนไพร (ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร)
ที่อยู่ Pocheon Herb Island
ที่อยู่: South Korea, Gyeonggi-do, Pocheon-si, Sinbuk-myeon, Cheongsin-ro 947beon-gil, 35 KR
เบอร์โทร: +82 31-535-6494
วันและเวลาทำการ
วันอาทิตย์ – วันอังคาร และ วันพฤหัสบดี – วันศุกร์ เวลา 10.00 – 21.00
วันเสาร์ เวลา 10.00 – 22.00
วันพุธ หยุด
ดูแผนที่ได้ที่นี่
ใครว่าเกาหลีมีดีแค่ในโซล เราจะพาไปตะลุยเมืองอื่น ๆ ที่ขึ้นชื่อในเกาหลีด้วยกัน อ่านบทความ คลิก
ขอบคุณรูปภาพแผนที่จาก http://herbisland.co.kr